ราชินีแห่งผักใบเขียว ช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ช่วยลดคอเลสเตอรอล อุดมไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระมากมายอย่าง โอเมก้า 3 แมกนีเซียม แคลเซียม เหล็ก โซเดียม โพแทสเซียม วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค และวิตามินบี 6
ด้วยวิตามิน K ที่สูง ช่วยให้เลือดแข็งตัวได้ดี ป้องกันเลือดออกมาก ผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่มยังใช้วิตำมิน K จากเคลในการรักษาโรคกระดูกพรุน และวิตามิน K ยังมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม วิตามิน A (Retinol) ช่วยเรื่องการลดรอยเหี่ยวย่นของผิว ลดอายุของผิว และเรตินอลยังช่วยเรื่องการงอกของผม ผักเคลยังช่วยบำรุงสายตาเพราะลูทีนในผักเคล เป็นเสมือนตัวกรองแสงสีฟ้าให้กระจกตา ช่วยให้เซลล์บริเวณดวงตาแข็งแรงผักเคลมีไฟเบอร์และซัลเฟอร์สูงจึงช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย เป็นการล้างสารพิษที่ตกค้าง จึงเป็นการดีท๊อกซ์ลำไส้และช่วยลดปัญหาของโรคลำไส้อักเสบ สารพิษที่สารอาหารจากผักเคลเข้าไปช่วยกำจัด ได้แก่ สารตกค้างจากอาหารแปรรูป มลภาวะ ยาฆ่าแมลง และสารพิษตกค้างจากยา ซึ่งถ้าสะสมมากในร่างกายก็จะเพิ่มโอกาสในการเกิดโรค ดังนั้นการดีท็อกซ์ร่างกายเป็นระยะจึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับยุคสมัยนี้ ผักเคลมี flavonoids ที่สำคัญที่สุด 2 ชนิด ได้แก่ kaempferol และ quercetin อีกทั้งสารต่อต้านอนุมูลอิสระในผักเคลนั้น ยังช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ดีเอ็นเอ ในขณะเดียวกันก็ชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ผักเคลขึ้นชื่อว่าเป็นผักใบเขียวที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดคอเลสเตอรอลมากที่สุด ความสามารถอันนี้ทำให้ดีต่อหัวใจ มีงานวิจัยพบว่า การดื่มน้ำผักเคลเป็นประจำทุกวันติดต่อกัน 12 สัปดาห์ช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอล HDL ที่ดีขึ้นถึง 27% และลดคอเลสเตอรอลตัวร้าย LDL ลงไป 10% ผักเคลให้คาร์โบไฮเดรตที่มีค่า Glycemic Index (GI) ต่ำ ซึ่งค่านี้ใช้วัดความเร็วหรือช้าของอาหารที่มีคาร์บในการเพิ่มน้ำตาลในเลือดนั่นเอง ผักเคลจัดอยู่ในกลุ่มที่มีค่า GI ต่ำช่วยจัดการระดับอินซูลิน การทานเคลจึงช่วยสนับสนุนการลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพอย่างดีเลิศ การศึกษาโดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ในการเปรียบเทียบอาหารแบบ GI สูงและต่ำได้ค้นพบว่า คนที่ทานอาหารแบบที่มีค่า GI ต่ำ จะ -หิวน้อยลงหลังจากทานอาหารแล้ว -อิ่มยาวนานขึ้น ช่วยไม่ให้กินเยอะเกินไป -สมองส่วนที่กระตุ้นความอยากอาหารลดการทำงานลง -เผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่า

