คามู คามู เป็นพืชที่มีไวตามินซีสูงที่สุดในโลก มากกว่าส้ม 60 เท่า!!!
คามูคามู ได้รับการพูดถึงมาก เพราะได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดผลไม้ที่มีผลการวิจัยทางการแพทย์ยืนยันว่าเป็นแหล่งของวิตาซีสูงสุดในบรรดาผลไม้ทั้งหมดในโลก มีแหล่งกำเนิดในแถบอเมริกาใต้ นักวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์จากทั่วโลกได้ให้ความสนใจกับผลไม้คามูคามู เนื่องจากพบว่า คามูคามู ให้กรดอะมิโน วิตามิน และเกลือแร่ที่จำเป็น เช่น โพแทสเซียม แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส และมีสารในกลุ่มโพลีฟีนอล และแคโรทีนอยด์ จำพวก ลูทีน ซีแซนทีน และเบต้า-แคโรทีนสูง
โดยมีผลการวิจัยพบว่า ผลไม้คามูคามูให้วิตามินซีสูงถึง 2,400-3,000 มิลลิกรัมต่อเนื้อผลสด 100 กรัม ซึ่งมากกว่าปริมาณของวิตามินซีในส้มถึงประมาณ 60 เท่า มากกว่าในมะนาวถึงประมาณ 58 เท่า และเมื่อเทียบกับอะเซโรล่า เชอร์รี่ ผลไม้ที่รู้จักกันดีว่าให้วิตามินซีสูง ซึ่งพบว่ามีวิตามินซี 1,357 มิลลิกรัมต่อเนื้อผลสด 100 กรัม แสดงว่าคามูคามูให้วิตามินซีสูงกว่าอะเซโรล่า เชอร์รี่ อีกด้วย และยังมีการศึกษาประโยชน์ด้านสุขภาพพบว่า ผลคามูคามู มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบ การศึกษาในกลุ่มอาสาสมัครจำนวน100 คนโดยสุ่มให้ดื่มน้ำผลคามู คามู 100% เทียบกับการรับประทานวิตามินซีอัดเม็ด ซึ่งให้ปริมาณวิตามินซีเท่ากันคือ 1,050 มก. ต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วัน พบว่า กลุ่มที่ดื่มน้ำผลคามู คามู มีระดับตัวชี้วัดของภาวะการเกิดออกซิเดชั่นและภาวะการอักเสบลดลง ในขณะที่กลุ่มซึ่งได้รับวิตามินซีอัดเม็ดไม่ให้ผลดังกล่าว จึงอาจกล่าวสรุปได้ว่าการทานคามู คามู นอกเหนือจากได้รับวิตามินซีแล้ว ยังให้สารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ เช่น แอนโธไซยานิน แคโรทีนอยด์ ที่ให้ประโยชน์ด้านสุขภาพ ในผลสดให้สารแอนโธไซยานินถึง 54 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม และโพแทสเซียมในคามู คามูยังช่วยในการดูดซึมวิตามินซีให้ดีขึ้นอีกด้วย
ประโยชน์
- ต้านอนุมูลอิสระ ต้านความเสื่อมของเซลล์ ปกป้องเซลล์ให้อ่อนเยาว์ ลดริ้วรอย
- ช่วยลดน้ำหนัก
- ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
- ช่วยให้อารมณ์ดี และความจำดี