สาหร่ายสไปรูลิน่า ช่วยดีท็อกซ์ ช่วยเร่งการกำจัดกรดยูริค ช่วยลดอาการอักเสบเก๊าท์ เร่งการเผาผลาญ ลดการสะสมของไขมัน ลดโคเลสเตอรอล
สาหร่ายสไปรูลิน่า มีประโยชน์มากมาย เป็น Most powerful multivitamins blue-green algae โปรตีนสูงถึง 60% มีสารต่อต้านการอักเสบ ช่วยเร่งการกำจัดกรดยูริค ช่วยลดอาการอักเสบเก๊าท์ เร่งการเผาผลาญ ลดการสะสมของไขมัน ลดโคเลสเตอรอล ดีท็อกซ์ (Detox) โลหะหนักและสารพิษออกจากร่างกาย มีวิตามิน แร่ธาติ สารอาหาร กว่า 80 ชนิด กรดอะมิโน 18 ชนิด สาหร่ายสไปรูลิน่า หรือที่รู้จักกันว่า สาหร่ายเกลียวทอง เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว จัดอยู่ในกลุ่มสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน (Blue-green algae) ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์ว่าเป็นแหล่งสารอาหารที่ดีที่สุดแหล่งหนึ่ง และได้รับการประกาศให้เป็น “สุดยอดอาหารสำหรับอนาคต” ในงานประชุมสุดยอดอาหารโลกโดยองค์การสหประชาชาติเมื่อปี 1974 นอกจากนี้ นาซ่ายังใช้สาหร่ายสไปรูลิน่าเป็นส่วนประกอบของอาหารสำหรับนักบินอวกาศในการไปปฏิบัติภารกิจนอกโลกอีกด้วย
สาหร่ายสไปรูลิน่าเป็นโปรตีนสมบูรณ์ (Complete Protein) โดยมีโปรตีนสูงถึง 60-70 % ของน้ำหนักแห้ง ซึ่งจะสูงกว่าโปรตีนในเนื้อและไข่ ในเนื้อสัตว์มีโปรตีน 20% และในไข่มีโปรตีน 18% เท่านั้นและสูงกว่าถั่วเหลืองซึ่งมีโปรตีน 35% เท่านั้น นอกจากจะมีโปรตีนสูงแล้วโปรตีนนี้ยังประกอบด้วยกรดอะมิโนคุณภาพดี (Essential amino acids) ที่ร่างกายต้องการครบถ้วนเหมาะสมตามที่ FAO/WHO แนะนำ และมีปริมาณวิตามิน เกลือแร่อยู่ครบถ้วนและอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมเมื่อเทียบต่อน้ำหนักกับอาหารชนิดอื่นๆ โดยอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก เบต้าแคโรทีน คลอโรฟิลล์ สารต้านอนุมูลอิสระ และกรดไขมันโอเมก้า 3 & 6 ควบคู่ไปกับแคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ทองแดง และฟอสฟอรัส นอกจากนี้ ยังมีวิตามินบี5 บี1 บี2 บี3 บี12 และวิตามินอี สไปรูลิน่ามีผนังเซลล์ที่นิ่ม อ่อนบาง จึงดูดซึมและย่อยง่ายกว่าสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินชนิดอื่นๆ ซึ่งมีผนังเป็นเซลลูโลส ทำให้ย่อยยากและดูดซึมยากกว่า
การบริโภคสาหร่ายนี้ช่วยเสริมสุขภาพให้มีความสามารถในการป้องกันโรคได้ ในคนที่ปกติ คนที่แข็งแรงอยู่แล้วก็รับประทานได้ เพื่อช่วยเสริมสร้างความสดชื่นแจ่มใส กระปรี้กระเปร่า ทำกิจกรรมต่างๆ ได้ดีไม่เหนื่อยง่าย โดยสาหร่ายนี้ เหมาะกับผู้มีปัญหา
- เหนื่อยง่าย เป็นกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ
- เป็นหวัดง่าย
- กินผักสีเขียวหรือผักสีเหลืองไม่เพียงพอ
- วิงเวียนอยู่เสมอ
- ชอบหรือไม่ชอบอาหารชนิดใดอย่างรุนแรงจนก่อให้เกิดอาการขาดสารอาหาร
- รู้สึกเจ็บถึงกระดูกแม้เมื่อกดเนื้อเบาๆ
- ไม่ทานอาหารเช้า
- กำลังอดอาหารเพื่อ “ลดความอ้วน”
- หญิงมีครรภ์
- โลหิตจาง
- ความดันโลหิตสูง (ให้รับประทาน 5 กรัมต่อวันเป็นเวลาอย่างน้อย 6 อาทิตย์)
- เบาหวาน (ช่วยลดน้ำตาลในเลือด)